เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ช่วงนี้ต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่อาจจะกลับมาระบาดระลอก 2 เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงและมีความชื้นสูงเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสเป็นอย่างมาก
นอกจากเรายังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อร่วมลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด เรียกตามภาษาที่เข้าใจกันว่า “การ์ดอย่าตก” แล้ว อีกทางนึงก็อย่าประมาทกับโรคระบาดที่มักจะมาเยี่ยมเยียนตามฤดูกาลด้วย โรคที่ว่านี้คือ ไข้หวัดใหญ่ ที่มาจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา และ ไข้เลือดออก ที่มาจากการเพาะพันธุ์ของยุงลายตัวพาหะของโรค โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ทั้งสองโรคสามารถติดได้พร้อมกันอีกด้วย
“ไข้เลือดออก” ภัยร้ายหน้าฝน
โรคไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) มียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรค ซึ่งมักจะไปวางไข่ในที่ ๆ มีน้ำขังนิ่ง หากเราโดนยุงลายตัวร้ายที่มีเชื้อมากัดเข้า เชื้อก็จะเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจทำให้มีอาการไข้เฉียบพลันและไข้สูงลอยเกินกว่า 2 วัน มีอาการอ่อนเพลีย อาจมีอาการผื่น หน้าแดง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องร่วมด้วย
“ไข้หวัดใหญ่” ศัตรูตัวฉกาจของลูกน้อย
โรคไข้หวัดใหญ่ จัดเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) อาการของโรคคือ มีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก อ่อนเพลียเฉียบพลัน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ เจ็บคอ คอแดง สามารถติดต่อกันได้จากการหายใจ ไอ และจาม โดยประเทศไทยนั้นมีสถิติการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ค่อนข้างสูง มีข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบว่า เพียง 5 เดือนแรกของปี 2563 นี้ มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เกือบ 100,000 ราย โดยเด็กอายุ 0 – 9 ปี นับว่ามีอัตราป่วยสูงสุด